เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เป็นเขื่อนขนาดใหญ่ของเมืองไทยซึ่งกินพื้นที่ทั้ง 2 จังหวัด คือ สระบุรีและลพบุรี เป็นอ่างเก็บน้ำที่ได้รับการพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวพร้อมกับแหล่งเรียนรู้ไปในตัว อีกทั้งยังมีบริการรถรางให้นักท่องเที่ยวได้นั่งชมความสวยงามของเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์แห่งนี้ จะทำให้เราได้เพลิดเพลินกับบรรยากาศโดยรอบและสูตรอากาศเข้าปอดได้อย่างเต็มที่เลย นอกจากอยากก็ยังมีทุ่งทานตะวันอันสวยงาม รอให้นักท่องเที่ยวได้ไปชมความงามพวกมันกันอีกด้วย
เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ แห่งนี้ได้ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2537 และเปิดเมื่อปี พ.ศ. 2542 โดยโครงการนี้ได้จัดทำขึ้นให้เป็นแหล่งเก็บน้ำและรองรับน้ำในช่วงน้ำหลาก อีกทั้งยังทำให้ประชาชนได้มีน้ำทำการเกษตรได้เกือบตอลดทั้งปีเลย และเมื่อพื้นที่ของอ่างเก็บน้ำได้เปิดให้ประชาชนสามารถมาเยี่ยมชมได้ นับจากนั้นมาก็ได้พัฒนาให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยว รวมไปถึงการสร้างรายได้ให้กับชาวบ้านในพื้นที่
เมื่อได้พัฒนาเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์แห่งนี้ให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวแล้ว ก็มีการจัดกิจกรรมต้อนรับนักเที่ยวให้ได้มีกิจกรรมทำร่วมกับครอบครัว ไม่ว่าจะเป็น การนั่งรถราง เพื่อชมทัศนีย์ภาพรอบ ๆ ของเขื่อน การปั่นจักรยาน การเข้าชมพิพิธภัณฑ์ รวมไปถึงการเข้าชมทุ่งทางตะวันอันสวยงามที่อยู่บริด้านข้าง
หรือใครที่อยากจะมานั่งพักผ่อนหย่อนใจรับลมเย็นก็สามารถทำได้เช่นกัน เพราะเขาได้จัดเป็นสวนย่อมและม้าหินเอาไว้ให้สำหรับผู้ที่มาเที่ยวได้มานั่งเล่นกัน นอกจากนี้บริเวณรอบ ๆ เขื่อนก็มีร้านค้ามากมายให้เราได้ไปเลือกซื้อของกัน รวมไปถึงสินค้าโอทอปของเหล่าแม่บ้านที่พวกเขาร่วมมือกันทำขึ้นมา หรือใครจะซื้อของฝากที่นี่ก็มีเช่นกันอย่างของดีเมืองสระบุรี ก็จะมีกระหรี่ปั๊ป กระยาสารท เมล็ดทานตะวันคั่ว และอื่น ๆ อีกมากมายให้เราได้ซื้อติดไม้ติดมือกลับบ้านไป และเขื่อนป่าศักดิ์ชลสิทธิ์แห่งนี้รับว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากเลย อีกทั้งยังไม่ไกลจากกรุงเทพอีกด้วย
ติดตามเที่ยวยังไงให้มันส์..แผล่บและติดตาม3 สถานที่ท่องเที่ยวหน้าหนาว นี้ บรรยากาศดีสุด ๆ ต้องไปเช็คอินกัน ไม่ควรพลาด