ตามรอย โบสถ์จมน้ำทะเล ณ วัดขุนสมุทรจีน
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า มนุษย์ไม่อาจจะหยุดธรรมชาตินั้นได้ ซึ่ง วัดขุนสมุทรจีน หรือที่เรียกว่า วัดขุนสมุทราวาส เป็นวัดเก่าแก่ชื่อดังอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดสมุทรปราการ เป็นที่กล่าวขานในเรื่องของโบสถ์จมน้ำทะเล ซึ่งถ้าหากปล่อยไว้อย่างนี้ไม่ได้รับการดูแลหรือฟื้นฟูเพื่อป้องกันภัยจากธรรมชาติ อีกไม่นานคงจะไม่มีพื้นที่สำหรับวัดแห่งนี้อีกต่อไป วัดขุนสมุทรจีน อดีตเส้นทางเรือสินค้าแห่งความมั่งคั่ง เดิมทีนั้น วัดขุนสมุทรจีน มีลักษณะพื้นที่เป็นติ่งที่ตั้งยื่นออกไปในทะเลปากอ่าวและเป็นเส้นทางสัญจรของเรือสินค้าจากต่างประเทศโดยเฉพาะเรือสำเภาจีน การค้าขายในอดีตช่วงนั้นจึงมีแต่เจริญรุ่งเรือง ความมั่งคั่ง และความอุดมสมบูรณ์จนทำให้พื้นที่บริเวณนั้นกลายเป็นที่ปักหลักอาศัยของชาวจีนและมีเชื้อสายจีนมาจนถึงปัจจุบัน แม้ว่า “โบสถ์จมน้ำทะเล” จะเป็นจุดไฮไลต์เด่นของวัดแห่งนี้ แต่น่าเสียดายที่เรายังไม่เห็นความสำคัญมากพอที่จะสามารถคงสภาพโบสถ์แห่งนี้ไว้ได้เหมือนเดิมเพราะภัยธรรมชาติที่เกิดจากน้ำมือมนุษย์นั่นเอง ซึ่งในอดีต วัดขุนสมุทรจีน มีพื้นที่ประมาณเกือบ 100 ไร่ แต่เนื่องด้วยผลที่มาจากสภาวะโลกร้อน การกัดเซาะจากน้ำทะเล ทำให้พื้นที่ของวัดเริ่มกลืนหายไปกับน้ำทะเลเรื่อยๆ จนเหลือไม่ถึง 5 ไร่แล้ว เมื่อเข้าสู่ปัจจุบันได้มีการช่วยเหลือจากหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อเข้าฟื้นฟูระบบนิเวศน์ทางธรรมชาติและหาวิธีทำแนวรั้วเพื่อชะลอการกัดเซาะจากน้ำทะเลได้ระดับนึง แต่หากมองโดยรอบจะสังเกตเห็นว่า ตัวโบสถ์นั้นถูกจมไปครึ่งหลัง และมีการยกพื้นให้สูงขึ้น ถึงแม้ตัวโบสถ์จะจมน้ำทะเลแต่ก็ยังสามารถใช้ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาได้ปกติ หากจะไหว้สักการะพระต้องมุดประตูเข้าไป ซึ่งด้านในมีพระประธานหลวงพ่อปากแดงประดิษฐานอยู่ รอบๆ ผนังจะเห็นรอยคราบน้ำสูงเกือบถึงเพดานชัดเจนและมีสีหลุดลอกตามสภาพ หากใครจะมา วัดขุนสมุทรจีน แห่งนี้ให้ศึกษาเรื่องการเดินทางก่อน เนื่องจากวัดแห่งนี้เปรียบเสมือนเกาะกลางทะเลยังคงต้องใช้เรือในการสัญจรไปมาอาจจะทำให้ไม่สะดวกมากนักและที่นี่ยังมีเปิดบริการโฮมสเตย์ของชุมชนบ้านขุนสมุทรจีนไว้บริการนักท่องเที่ยวด้วย ค้นหาข้อมูลท่องเที่ยวมากมายได้จาก แหล่งท่องเที่ยว บทความที่น่าสนใจ ข้อมูลท่องเที่ยวอื่นๆ คืนนี้เตรียมชม “บั้งไฟพญานาค” ในเทศกาลวันออกพรรษา หนองคาย